วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2554

introduction to blog

อย่าเพิ่งตกใจนึกว่าเป็นฺBlog ธรรมะครับ กำลังทดสอบระบบ โดยมีเป้าหมายว่าให้คณะครูโรงเรียนบ้านสวนมะเดื่อทุกท่านมีBlog นำเสนอข้อมูล องค์ความรู้ ข่าวสารของตนเอง เพื่อเผยแพร่ทางระบบเครือข่าย บทความต่อๆไปคงจะเพิ่มสาระทางวิชาการขึ้นเรื่อยๆครับ

ชาติที่แล้วเราไปผูกมัดใครไว้บ้างหรือปล่าว

ชาติที่แล้วเราไปผูกมัดใครไว้บ้างหรือปล่าว
ชาติที่แล้วเราไปผูกมัดใครไว้บ้างก็ไม่รู้ด้วยคำสัญญา
เช่น เราจะรักกันทุกชาติไป
โดยหารู้ไม่ว่ากรรมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ชาติภพใหม่ก็เลยแตกต่างกันไป
แต่คำมั่นที่สาบานยังอยู่
อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คุณยังเป็นโสดจนทุกวันนี้
ลองสวดมนต์บทนี้ดูอาจจะดีขึ้นนะ คำขอขมาและอธิษฐานจิต
อธิษฐานหน้าพระพุทธรูป หรือสวดก่อนนอนก็ได้

( นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ )

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต

" หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกิน บิดา-มารดา
ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า
ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ
และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กาย วาจา ใจ ก็ดี
ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมา
ขออนุญาติมีคู่ มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐาน
คำสาบานที่จะติดตามคู่ในอดีต
ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน
ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร
ขอบุญบารมี ในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน
จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัว
ตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้อง จงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ
ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติ ปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ
โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้นไป ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก
ทางธรรมตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ
หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า
ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้
ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาต และคำสาปแช่งในทุกชาติทุกภพ
ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชนของเจ้ากรรมนายเวร "

คนเราเกิดมาหลายภพหลายชาติ
แต่ละคนมีเจ้ากรรมนายเวรที่แตกต่างกัน
การสวดขอขมาเพื่อลดและปลดหนี้กรรมให้น้อยลง

( คาถา บทนี้ เป็นคาถาที่ใช้สำหรับขอขมาพระรัตนตรัย
และใช้เพื่อถอนคำสาปแช่ง ในอดีตชาติ ที่ติดตามมา
เพราะเราไม่รู้ว่าเคยได้ ล่วงเกินปรามาสใครไปบ้างก็ไม่รู้ ไม่เว้นแม้กระทั้ง
พระพุทธองค์ พระอรหันต์ พ่อ แม่ เป็นต้น
เพราะบางคนทำการใดๆ มักมีอุปสรรค หรือมักมีคนไม่ชอบหน้า

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี
ตั้งนะโม ๓ จบ ชินะปัญชะระ ปะริตตังมัง รักขะตุ สัพพะทา หรือ
วิญญาณสัมปันโน อิติปิโส ภะคะวา นะโมพุทธายะ ๙ จบ
( ขอพระอนันตชินเจ้าในบัญชรแวดวงกงล้อม พระโมรปริตรและพระขันธปริตร อรหันต์เจ้า จงคุ้มครองรักษาข้าพเจ้าให้พ้นจากภยันตรายสรรพสิ่งทั้งปวง ตลอดเวลาทุกเมื่อ)

อ้างอิง http://tunajai.multiply.com/journal/item/2
เครดิต คุณมดเอ็ก http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=27715


บทขอขมาคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

ด้วยอนุภาพแห่งคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ข้าพเจ้าเคยมีความคิดเห็นค้านในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์
ที่ทรงได้ตรัสรู้แจ้งแห่งหนทางซึ่งจะนำไปสู่ความหลุดพ้นได้แล้วอย่างแท้จริง
และด้วยการปรามาสและล่วงเกินด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม
ต่อคุณพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์
จะด้วยความตั้งใจและไม่ตั้งใจก็ดี ทั้งต่อหน้าและลับหลังก็ดี

บัดนี้ข้าพเจ้าได้สำนึกผิดต่อบาปกรรมทั้งหมดทั้งปวงแล้ว
ข้าพเจ้าจึงขอน้อมจิตเพื่อขอขมากรรมต่อคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ขอได้โปรดยกโทษอโหสิกรรมในความผิดพลาดพลั้ง
ด้วยจิตที่ยังติดอยู่ในอวิชชาของข้าพเจ้านั้นด้วยเถิด

ด้วยความสำนึกผิดด้วยใจจริงของข้าพเจ้า ขอให้กรรมเหล่านั้นจงมลายหายสิ้นไป
และขอให้ข้าพเจ้าได้มีจิตสำรวมระวังกาย วาจา ใจ
ที่จะไม่ทำผิดพลาดพลั้งต่อคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อีกต่อไป

และต่อแต่นี้ไป ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ดำรงสติสัมปชัญญะโดยสมบูรณ์ ได้มีดวงตาเห็นธรรม
และได้รับรู้หนทางที่จะนำไปสู่ความหลุดพ้นแห่งความทุกข์ทั้งปวงเถิด
ขอให้ความปรารถนาของข้าพเจ้านี้จงสัมฤทธิ์ผล
ด้วยอานุภาพแห่งคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ด้วยเทอญ.

เครดิต คุณ malila

บุญมี 10 อย่าง ทำครบแล้วจะรุ่งเรืองทุกๆด้าน

บุญมี 10 อย่าง ทำครบแล้วจะรุ่งเรืองทุกๆด้าน

ประการแรก บุญเกิดจากการให้ทาน หมั่นให้เนืองๆ ซึ่งจะส่งผลให้เราเป็นคนมั่งคั่ง มีทรัพย์มาก

ประการที่สอง บุญเกิดจากการหมั่นรักษาศีลให้เคร่งครัดโดยลำดับ ซึ่งจะส่งผลให้เรามีสุขภาพดี ชีวิตมีสวัสดิภาพและสวยงาม

ประการที่สาม บุญเกิดจากการภาวนา จงหมั่นภาวนาอยู่เสมอทุกวันๆ เจริญสติ ฝึกสมาธิอยู่ทุกขณะ อย่าให้ขาด ซึ่งจะส่งผลให้เราเป็นคนมีพลังอำนาจในตนและมีสติปัญญาล้ำลึก

ประการที่สี่ บุญเกิดจากการประพฤติอ่อนน้อมแก่ผู้ที่ควรอ่อนน้อมคือผู้ประเสริฐ ผู้ที่มีความบริสุทธิ์ใจ และผู้มีใจบริสุทธิ์ทั้งหลาย เราจะต้องประพฤติอ่อนน้อมอยู่เสมอ ซึ่งจะส่งผลให้เราเป็นที่รักที่เมตตา และอยู่ในสังคมอันสูง

ประการที่ห้า บุญเกิดจากการขวนขวายในกิจของผู้อื่น ใครก็ตามที่ควรได้รับการช่วยเหลือ เราจะช่วยเขาตามสมควรแก่ฐานะ และตามโอกาสให้ได้วัตถุประสงค์คือ ทุกคนดีขึ้นจริงๆ ซึ่งจะส่งผลให้เรามีบริวารมาก มีคนอาสาช่วยกิจการงานมาก ยามเดือดร้อนมีคนยื่นมือมาช่วย

ประการที่หก บุญเกิดจากการฟังธรรม จงศึกษาสัจจะอยู่เสมอ ไม่ว่าจะด้วยการอ่านหนังสือ ฟังเทปหรือฟังเทศน์ หรืออะไรก็ตามที่เป็นการศึกษาสัจจะ ที่จะให้เราเห็นแง่มุมของสัจจะครบถ้วนขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้วิสัยทัศน์ของเรากว้างขวางล้ำลึกถูกต้องยิ่งขึ้น

ประการที่เจ็ด บุญเกิดจากการแสดงธรรม เมื่อรู้อะไรแล้วใครที่เขายังด้อยกว่าเรา เราก็แนะนำสั่งสอนตักเตือนเขาด้วยใจเมตตาด้วยใจปรารถนาดีจริงๆ เป็นการแสดงธรรม ซึ่งจะส่งผลให้เราแตกฉานและมั่นคงในความดีงามยิ่งขึ้น ถ้าเรายังไม่มีธรรมะมากนักก็อาจซื้อหนังสือธรรมะหรือเทปธรรมะไปแจกก็ได้

ประการที่แปด บุญเกิดจากการอุทิศบุญ เมื่อทำความดีใดๆ แล้ว ก็หมั่นเผื่อแผ่ความดีให้แก่คนอื่น เจือจานความดีและความชอบในผลงานให้แก่คนอื่น อย่าไปหวงความดี อย่าไปติดดี ซึ่งจะส่งผลให้จิตใจเราสะอาดและอิสระยิ่งใหญ่ขึ้น

ประการที่เก้า บุญเกิดจากการอนุโมทนาส่วนกุศล เมื่อใครเขาทำความดีแล้วเราหมั่นยินดีในความดีของเขา ชื่นชมยินดี สรรเสริญยกย่องเขา จะทำให้จิตใจเราสูงส่งยิ่งขึ้น สะอาดหมดจด ไม่อิจฉาริษยา ซึ่งจะส่งผลให้เรามีมิตรมาก มีความสัมพันธ์อันมั่นคง

ประการที่สิบ บุญเกิดจากการทำความเห็นให้ตรงสัจจะ คือทำปัญญาให้ตรงกับสัจจะอันล้ำลึกแทงตลอด ทำปัญญาให้ตรงกับเป้าหมายสูงสุดของชีวิตและของทุกสิ่งของขบวนการวิวัฒนาการ แล้วทำปัญญาให้เห็นประโยชน์สูงสุด ปรับวิถีชีวิต ทำกิจการงานทุกอย่างให้ได้ประโยชน์สูงสุดสำหรับทุกฝ่ายไป ทุกขณะคือทำบุญในงาน แล้วทำงานให้เป็นบุญโดยลำดับ ซึ่งจะส่งผลให้เราแจ่มแจ้งในความเป็นจริงทุกระดับและนำปัญญามาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ชีวิตได้จริง


บุญทุกประการที่กล่าวมาแล้วจักชำระจิตใจ ทำให้ชีวิตเราหมดจดมากขึ้น
เมื่อบริสุทธิ์มากขึ้น พลังอำนาจอันเป็นฐานแห่งความสำเร็จก็ยิ่งใหญ่ขึ้น


ดังนั้น ถ้าทำได้อย่างนี้ ท่านจะประสบความสำเร็จในชีวิตทุกๆ ด้าน ไม่ใช่ด้านใดด้านเดียว ซึ่งเป็นชีวิตแบบอย่างเลยทีเดียว

Credit:naruphol